คนไทยทุกชนชั้นล้วนมีวีถีการดำเนินชีวิตที่ได้รับอิทธิพลมาจากหลักธรรมทางศาสนา คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยนับถือพระพุทธศาสนา มีพระสงฆ์นำหลักพุทธธรรมออกมาเผยแผ่แนะนำพร่ำสอนปลูกคุณธรรมจริยธรรมให้ทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติเพื่อความสุขสวัสดีแก่สังคมส่วนรวมด้วยกระแสหลักพุทธธรรมคำสอนนี้เป็นบ่อเกิดความศรัทธาให้ผู้นับถือได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์กลายเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าต่อชาวโลก ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม วรรณกรรม กวี เพื่อถ่ายทอดเจตนาอันบริสุทธิ์ใจออกมาเป็น มโนกรรม กายกรรม วจีกรรม ตามหลักคำสอนทางศาสนา เช่น เกิดมีผลงานเทศน์มหาชาติแหล่ทำนอง ในเรื่องมหาเวสสันดรชาดก
โดยพระสงฆ์นำไปเทศน์เพื่อเชิญชวนชาวพุทธให้มีความเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระพุทธสาสนาให้มั่นคงดำรงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
การเทศน์มหาชาติมีมาแต่สมัยพุทธกาลเมื่อครั้งพระโสณกุฏิกัณณเถระได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์อนุญาตให้ที่พักใกล้ ๆ กันและให้สวดทำนองสรภัญญะให้ฟังด้วย
พอพระโสณกุฏิกัณณะสวดจบ พระพุทธเจ้าทรงประทานสาธุการ คือชมว่าสวดเสียงอันไพเราะดีมาก ท่านเลยได้รับเอตทัคคะว่าเป็นผู้มีวาจาไพเราะด้วยการสวดทำนอง ซึ่งผู้เขียนมีมติว่า สรภัญญะนี้เองได้สืบทอดมาจนกลายเป็นการเทศน์มหาชาติแหล่ทำนองขึ้น
สำหรับการเทศน์มหาชาติในประเทศแถบเอเชียที่นับถือพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในประเทศไทยมีหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกนครชุม หลักที่ 3 สมัยพญาลิไท ทำนองว่า พระมหาชาติหาคนสวดแลมิได้เลยเป็นคาถาบาลีเรียกว่าคาถาพันมี 13 กัณฑ์ ต่อมาในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ( พ.ศ. 1991-2030 ) ได้ประชุมนักปราชญ์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสมาแต่งมหาชาติคำหลวงขึ้นในปี พ.ศ. 2025
ต่อมาอีกในสมัยพระเจ้าทรงธรรมได้ประชุมนักปราชญ์แต่งกาพย์มหาชาติขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2145-2170 ( ดร.พระครูวินัยธรมานพ ปาละพันธ์ ( กนฺตสีโล ). 2553 : 59 )
ต่อแต่นั้นมาเข้าใจว่ามีการฝึกหัดเทศน์มหาชาติตามที่นักปราชญ์ได้ประชุมแต่งขึ้นไว้โดยยึดถือเป็นแบบอย่างของหลวงหรือทำนองหลวง ทีนี้ชาวบ้านชอบตรงไปตรงมาตามภาษาปากเลยดัดแปลงทำนองออกมาเป็นเทศน์ทำนองแบบบ้านก่อเกิดเป็นการเทศน์มหาชาติ 2 แบบคือทำนองหลวงและทำนองราษฏร์สืบมาจนทุกวันนี้.
บรรณานุกรม
ดร.พระครูวินัยธรมานพ ปาละพันธ์ ( กนฺตสีโล ). 2553 . สืบสานการเทศน์มหาชาติ.
กรุงเทพ ฯ : บริษัท เอดิสัน เพรส โพรดักส์ จำกัด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น